ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ซาลาห์ คือผู้นำตำแหน่งจ่าฝูงเดี่ยวจากการทำไป 22 ประตูจาก 34 นัด โดยมี ซน ตามมาแบบติดๆด้วยการยิงไป 21 ประตู
และในแมตช์สุดท้าย ซาลาห์ ทำเพิ่มได้อีก 1 ประตูในเกมเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 ขณะที่ ซน ทำเพิ่มได้อีก 2 ประตูในเกมบุกถล่ม นอริช ซิตี้
จากผลดังกล่าวทำให้ทั้ง ซาลาห์ และซน ยิง 23 ประตูจาก 35 นัดเท่ากัน ครองดาวซัลโวของลีกสูงสุดแดนผู้ดีในฤดูกาลนี้ร่วมกัน
นอกจากนั้น ซาลาห์ ทำยังได้รางวัลเพลย์เมกเกอร์ของลีกหลังทำแอสซิสต์มากที่สุดในลีกด้วยจำนวน 13 ลูก
ส่วน ซน กลายเป็นแข้งจากทวีปเอเชียรายแรกที่ซิวรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก รวมถึงเป็นการยิงโดยไม่มีจุดโทษเลย
ส่วนรางวัลถุงมือทองคำตกเป็นของ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ผู้รักษาประตูจาก ลิเวอร์พูล และเอแดร์ซอน โมราเอส นายด่านจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองตำแหน่งร่วมกันจากการเก็บคลีนชีตได้ 20 นัด
